ฟอเร็กซ์

ก.ค. 4

2 นาทีที่อ่าน

ใครคือผู้ให้บริการสภาพคล่องด้าน ฟอเร็กซ์ (ผู้รวบรวม)

ใครคือผู้ให้บริการสภาพคล่องด้าน ฟอเร็กซ์ (ผู้รวบรวม)

จำเป็นต้องเข้าใจว่าสภาพคล่องคืออะไรเพื่อที่จะเข้าใจว่าใครคือผู้ให้บริการสภาพคล่อง พูดได้สั้น ๆ คือ สามารถในการซื้อ/ขายสินทรัพย์ (สินค้าโภคภัณฑ์ สกุลเงิน) ได้อย่างรวดเร็ว ณ ราคาตลาด นี่คือสภาพคล่องที่ดี หากไม่มีความสามารถดังกล่าวหมายถึงว่ามี – สภาพคล่องไม่ดี ยิ่งความแตกต่างของราคาน้อยลง (ค่าสเปรด และสมุดคำสั่งซื้อขายที่แคบ) และยิ่งมีการซื้อขายต่อหน่วยของเวลามากเท่าไหร่ สภาพคล่องก็จะยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น

ผู้ให้บริการสภาพคล่อง – นิติบุคคลที่ให้เงื่อนไขการแลกเปลี่ยน/การค้าที่เอื้ออำนวยมากกว่าเนื่องจากปริมาณอุปสงค์ และอุปทานที่มากขึ้น ซึ่งพวกเขาเปรียบเสมือนผู้ขายส่งสินค้ารายใหญ่ หากไม่มีผู้ให้บริการสภาพคล่อง โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ทั่วไปจะไม่สามารถตอบสนองความต้องการทั้งหมดของลูกค้าได้ ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อลูกค้าแต่ละรายต้องการซื้อ ลูกค้าจำเป็นต้องค้นหาผู้ขายในฝั่งตรงข้าม และเหมือนกันในทางกลับกัน เพื่อให้บรรลุเงื่อนไขที่เหมาะสมที่สุดเมื่อผู้ซื้อ และผู้ขายยอมรับในข้อตกลงที่มีปริมาณที่เหมาะสมในราคาที่เหมาะสม ณ ช่วงเวลาหนึ่งนั้นค่อนข้างยาก ยกเว้นว่าโบรกเกอร์จะเป็นธนาคารขนาดใหญ่ และมีสภาพคล่องสำรอง แต่ตามกฎแล้ว โบรกเกอร์ ฟอเร็กซ์ ส่วนใหญ่จะเป็นตัวกลางระหว่างซัพพลายเออร์ กับลูกค้า ดังนั้นคุณจึงสามารถทำการซื้อขายได้เฉพาะกับผู้ให้บริการสภาพคล่องเท่านั้น

โดยทั่วไปผู้ให้บริการสภาพคล่องทั้งหมดจะแบ่งออกเป็นสองลำดับชั้น คือ: ลำดับชั้นที่ 1 และลำดับชั้นที่ 2

ลำดับชั้นที่ 1 คือผู้ให้บริการรายใหญ่ที่มีปฏิสัมพันธ์กันในเครือข่าย ECN

ECN (Electronic Communication Network) เป็นเครือข่ายการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับผู้ให้บริการสภาพคล่องรายใหญ่ที่สุด ผู้ให้บริการในลำดับชั้นที่ 1 ได้แก่ ธนาคารระหว่างประเทศขนาดใหญ่ เช่น Morgan Stanley, Bank of America, Goldman Sachs, J.P. Morgan, Barclays Capital Bank, Citibank, Deutsche Bank, Nomura และอื่น ๆ ผู้ให้บริการรายใหญ่ต่าง ๆ นี้ ยังรวมไปถึงการแลกเปลี่ยนทางการเงินระหว่างประเทศสำหรับการซื้อขายในตลาดซื้อขายล่วงหน้า สัญญาสิทธิล่วงหน้า และตราสาร ซึ่งรวมไปถึง CME Group (Chicago Mercantile Exchange), CBOE (Chicago Board Options Exchange), ICE (Intercontinental Exchange), European Options Exchange, Deutsche Börse, Singapore International Monetary Exchange และอื่น ๆ นอกจากนี้ กองทุนป้องกันความเสี่ยงขนาดใหญ่ กองทุนรวม และบริษัทการลงทุนยังทำการซื้อขายอยู่บนเครือข่าย ECN อีกด้วย

โบรกเกอร์ ฟอเร็กซ์ ส่วนใหญ่ (>90%) ไม่สามารถเข้าถึงสภาพคล่องของลำดับชั้นที่ 1 ได้ และการแลกเปลี่ยนที่กำหนดเนื่องจากพวกเขา (ซัพพลายเออร์) ทำงานกับปริมาณมากเท่านั้น ดังนั้น ผู้ให้บริการสภาพคล่องรายเล็กในลำดับชั้นที่ 2 จึงสามารถเข้าถึงสภาพคล่องของธนาคารเหล่านี้ได้ (หนึ่งราย หรือหลายราย) หรือดีมากกว่านั้นคือสามารถเข้าถึงเครือข่าย ECN และแลกเปลี่ยนกันเองได้ เมื่อโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์เข้าถึงผู้ให้บริการสภาพคล่องในลำดับชั้นที่ 2 ขนาดเล็กได้โดยตรงซึ่งถูกเรียกว่าเป็นโบรกเกอร์ STP

Straight Through Processing (STP) แปลว่า การประมวลผลธุรกรรมโดยตรง เป็นวิธีการส่งคำสั่งซื้อขายของลูกค้าโดยตรงไปยังผู้ให้บริการสภาพคล่องโดยไม่มีการแทรกแซงใด ๆ

เมื่อโบรกเกอร์ ฟอเร็กซ์ มีการเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการสภาพคล่องในลำดับชั้นที่ 1 ขนาดใหญ่ (ธนาคารขนาดใหญ่) หรือกับกลุ่มผู้ให้บริการสภาพคล่องในลำดับชั้นที่ 2 ขนาดเล็กหลายราย (มีบางส่วน) โดยตรงจะถูกเรียกว่าโบรกเกอร์ DMA (การเข้าถึงตลาดโดยตรง)

เมื่อโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์เข้าถึงแหล่งรวมสภาพคล่องของผู้ให้บริการรายใหญ่ในลำดับชั้นที่-1 ได้โดยตรง และนี่คือ ECN หรือบริการกู้ยืมเงินระหว่างทางธนาคารด้วยกันเอง โบรกเกอร์ดังกล่าวจะถูกเรียกว่าโบรกเกอร์ ECN

มีโบรกเกอร์ ECN Forex ที่แท้จริงจำนวนน้อยมากในตลาด และรายการบันทึกขั้นต่ำในโบรกเกอร์ดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 10,000 – 25,000 ดอลลาร์ อะไรก็ตามที่ต่ำกว่า 10,000 คือ 99% ซึ่งไม่ใช่ ECN ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็น STP ไม่มีใครจะมอบเงินหนึ่งร้อยเหรียญใน “การบริการกู้ยืมเงินระหว่างทางธนาคารด้วยกันเอง” ให้กับคุณ และการมอบเงินนี้จะต้องได้รับการยอมรับตามความเป็นจริง ดังนั้นนักเทรดรายย่อยทั่วไปจึงไม่คิดถึง ECN ที่แท้จริงหากมีจำนวนเงินฝากน้อยกว่า 10,000 อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการสภาพคล่องในลำดับชั้นที่ 2 จะพร้อมให้สภาพคล่องในช่วงหลายหมื่น หรือแม้แต่หลายแสนดอลลาร์หากคุณต้องการ

สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่ากระบวนการรวมนั้นทำงานโดยอัตโนมัติ และรวดเร็วมากเนื่องจากใช้ซอฟต์แวร์ที่ทันสมัย นั่นคือที่มาของคำว่า ผู้รวบรวมสภาพคล่อง ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยทำการเสนอราคาที่จำเป็นในราคาที่ดีที่สุดซึ่งถูกรวบรวมมาจากผู้ให้บริการสภาพคล่องต่าง ๆ

ในกรณีที่ไม่มีคู่สัญญาที่เหมาะสมในขณะนี้สำหรับปริมาณปัจจุบัน การซื้อขายจะดำเนินการที่ราคาที่ใกล้ที่สุดที่เป็นไปได้ และคำสั่งซื้อขายของคุณจะดำเนินการตาม “สลิปเพจ” (ความคลาดเคลื่อนของราคาในจุดที่ส่งคำสั่งซื้อขายกับราคาที่สามารถซื้อขายได้จริง ๆ) แต่กระบวนการส่ง และประมวลผลคำสั่งซื้อขายนั้นจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนคุณจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างข้อตกลงกับลูกค้าของโบรกเกอร์ หรือข้อตกลงกับผู้ให้บริการสภาพคล่อง

ดังนั้นราคา “slippage” จึงเป็นสัญญาณของสภาพคล่องที่ไม่เพียงพอในขณะนี้ และนี่เป็นหนึ่งในปัจจัยของการประมาณค่าของผู้ให้บริการสภาพคล่องของโบรกเกอร์ แต่คุณไม่สามารถตรวจสอบตัวบ่งชี้นี้ได้ในระหว่างการเผยแพร่เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจ ในเวลานี้ ผู้เข้าร่วมตลาดจำนวนมากถอนคำสั่งซื้อขายของตนออกจากสมุดคำสั่งซื้อขายซึ่งส่งผลให้สภาพคล่องลดลงอย่างมาก นี่คือเหตุผลว่าทำไมความผันผวนจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงที่มีการเผยแพร่ข่าวสาร (มีสภาพคล่องเพียงเล็กน้อย ณ ราคาที่ใกล้ที่สุด และราคาจะไปหาราคาที่สูงขึ้น/ต่ำลง) และเกิดสลิปเพจ และค่าสเปรดที่กว้างขึ้นอย่าง “รุนแรง”

ขอให้ได้รับกำไรจากการซื้อขายนะคะ