การเรียนรู้

ก.ค. 4

1 นาทีที่อ่าน

การลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินสำรอง

การลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินสำรอง

เงินดอลลาร์สหรัฐครอบงำการค้าโลกและกระแสเงินทุนของนักลงทุนมานานหลายทศวรรษ แต่กลุ่มประเทศ BRICS กำลังแสวงหาทางเลือกอื่นเพื่อลดการพึ่งพาสหรัฐอเมริกา

  • บราซิลและจีนได้บรรลุความตกลงที่จะเลิกใช้เงินดอลลาร์สหรัฐในธุรกรรมการค้าต่างๆ เพื่อเปลี่ยนไปใช้สกุลเงินของพวกเขาเอง
  • อินเดียและจีนวางแผนที่จะทำการค้าโดยใช้สกุลเงินของตนเองเพื่อลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์
  • ในปี 2565 ธนาคารกลางต่างพากันซื้อทองคำอย่างรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2530 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณถึงความปรารถนาที่จะสำรองสกุลเงินของตนด้วยทองคำมากกว่าเงินดอลลาร์
  • ประเทศที่คว่ำบาตรกำลังกำจัดทุนสำรองเงินดอลลาร์อย่างแข็งขันโดยเพิ่มทุนสำรองเป็นทองคำและเงินหยวน
  • ตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา เงินดอลลาร์สหรัฐได้สูญเสียส่วนแบ่งทุนสำรองเงินตราต่างประเทศทั่วโลกมาโดยตลอดอย่างช้าๆ (ในปี 2543 >70%; ปี 2565 <60%) < />i>

จากข้อมูลของ IMF ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่วนแบ่งเงินสำรองระหว่างประเทศของดอลลาร์สหรัฐถูก “ชิง” ไปโดยเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย (1.9%) ดอลลาร์แคนาดา (2.5%) และเงินหยวนจีน (2.8%) เงินหยวนคิดเป็นประมาณ 25% ของส่วนแบ่งที่ถูกชิงไป จีนซึ่งกำลังมุ่งความสนใจไปยังประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมากและพร้อมที่จะลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ลงอย่างมากจะยังคงพยายามเพิ่มสถานะของตนเองในตลาดเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศโดยลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ควบคู่ไปกับการเพิ่มการใช้เงินหยวน

ในเดือนมีนาคม ธนาคาร Sino-Brazilian Banco BOCOM BBM ร่วมใช้ระบบ CIPS (ระบบการชำระเงินระหว่างธนาคารของจีน) ซึ่งเทียบเท่ากับระบบ SWIFT ในเวลาเดียวกัน ธนาคาร People’s Bank of China ได้แต่งตั้งธนาคาร ICBC ของบราซิล (ธนาคารที่มีสินทรัพย์มากที่สุดในโลก) เป็นธนาคารเคลียร์เงินหยวนในบราซิล บราซิลเองเพิ่มส่วนแบ่งของทุนสำรองในสกุลเงินหยวนเป็น 5.4% แม้ว่านี่จะมากกว่าส่วนแบ่งของเงินยูโร (4.7%) แต่เมื่อเทียบกับทุนสำรองที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์ 80% ที่มีอยู่เดิมแล้ว การเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งเงินหยวนนั้นช่างดูน่าเวทนา ในขณะเดียวกันในแง่ของสภาพคล่อง ปริมาณเงินฝากในสกุลเงินหยวนก็ยังค่อนข้างต่ำในช่วง 200-300 พันล้านดอลลาร์ (ข้อมูลทางการล่าสุด ~1.66 ล้านล้านเยน)

จีนรุดหน้าขึ้นมาอย่างรวดเร็วในการโปรโมทเงินหยวนในตลาดต่างประเทศให้กลายเป็นสกุลเงินที่ใช้ชำระบัญชี โดยใช้ซื้อขายกับต่างประเทศเป็นจำนวนมหาศาล แต่ถึงขณะนี้ยังเป็นการขยายพื้นที่ทางการเงินมากกว่าที่จะมาแทนที่เงินดอลลาร์ และแม้ว่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะสูญเสียพื้นที่บางส่วนบนเวทีระหว่างประเทศไปแต่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐก็ไม่ได้รับผลกระทบ ปัจจัยสำคัญในการกำหนดค่าเงินดอลลาร์ยังคงเป็นนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ เช่นเดียวกับความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับนโยบายการเงินในอนาคตของผู้กำกับดูแล